ตามรอยศรัทธาไทย-จีนผ่านพุทธสถานที่ผสมผสานสองวัฒนธรรมและความเชื่อไว้ด้วยกันอย่างลงตัวบนพื้นที่กว่า 250 ไร่ได้รับการเนรมิตสู่การเป็นศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน ซึ่งอลังการด้วยงานสถาปัตยกรรมจีนท่ามกลางบรรยากาศภายในที่ไม่เพียงแวดล้อมด้วยธรรมชาติเท่านั้น หากผู้มาเยือนยังได้สักการะเทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ย ปางเศรษฐีชัมภลหรือที่รู้จักกันดีว่าปางมหาราช หล่อด้วยโลหะ ขนาดฐานกว้าง 2 เมตร และมีลักษณะสมบูรณ์น่าเลื่อมใสยิ่งนักชาวไทยและจีนพากันเชื่อว่าเทพเจ้าองค์นี้เป็นผู้ที่ให้คุณทางด้านโชคลาภ ทรัพย์สมบัติ โดยเฉพาะผู้ทำมาค้าขายควรหาโอกาสแวะไปสักการะสักครั้ง อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันทางพุทธสถานได้แกะสลักเทพเจ้าแห่งโชคลาภองค์เดียวกันนี้ขึ้นอีกครั้ง โดยใช้หยกเขียวน้ำหนักกว่า 1,000 กิโลกรัม ที่ถือว่าเป็นเทพเจ้าแกะสลักจากหยกเขียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากการสักการะเทพเจ้าองค์ดังกล่าวแล้วบริเวณภายในพุทธสถานยังประดิษฐานรูปหล่อ พระโพธิสัตว์กวนอิม พระศรีอริยเมตตรัย พระอวโลกิเตศวรพันกร เทพเจ้ากวนอูและเทพเจ้าตามคติความเชื่อต่าง ๆ ของชาวจีน นอกจากนี้คุณจะได้พบ กับวิหารต่าง ๆ ที่สวยงามและอิ่มเอมด้วยคุณค่าทางจิตใจ อาทิเช่น วิหารฟ้าดิน (ทีกง) เพื่อกราบไหว้ฟ้าดิน รำลึกถึงบุญคุณของธรรมชาติ วิหารเทพเจ้าแห่งโชคลาภ วิหารนพเคราะห์ชันษาไภสัชคุรุราชา วิหารพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม วิหารเทพสถิตย์รวมทั้งลานรับพลังฟ้าดินอันเป็นสถานที่ใช้ประกอบพิธีกรรมสำคัญ เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.00-16.00 น.